ทำไมหมอไม่ถอดเครื่องมือจัดฟันให้

ข้างนอกดูเหมือนเสร็จ แต่ข้างในยังไม่เสร็จ

“คุณหมอคะ ฟันหนูก็เรียงสวยแล้ว แต่ทำไมหมอบอกว่า มันยังไม่เสร็จ (พลางแอบคิดในใจ หมอจะเลี้ยงไข้หนูหรือเปล่าคะ) หนูอยากถอดเครื่องมือแล้วค่ะ”

แม้ข้างนอกจะดูเหมือนเสร็จ ฟันยุบแล้ว ฟันเรียงสวยแล้ว แต่ข้างในยังไม่เสร็จ ก็ยังไม่สมควรถอดเครื่องมือจัดฟันออก การจัดฟัน คือการรักษาความผิดปกติของการสบฟัน เพื่อช่วยให้การใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารดีขึ้น จึงไม่ใช่มีแค่เรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียว

การจัดฟันที่ถูกต้องตามหลักวิชาการนั้น ไม่ได้มีแค่การดึงให้ฟันยุบ หรือแค่ทำให้ฟันเรียงสวย แบบที่หลายคนเข้าใจกัน แต่ยังมีสิ่งที่ผู้ป่วยมองไม่เห็น ซึ่งก็คือ “ตำแหน่งและการสบฟันที่ถูกต้องเหมาะสม” ของฟันแต่ละซี่ อันนี้จะต้องเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ ความรู้ความสามารถ ของทันตแพทย์ที่จัดฟันให้เรา ว่าจะทำให้ดีขนาดไหน

จัดฟัน ไม่ได้มีแค่ทำให้ฟันเรียงสวย

ในบางคน การจัดฟันอาจสามารถทำให้ “ฟันดูเหมือนเรียงสวย ภายในเวลาแค่ 3-5 เดือน” แต่กลับต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี เพื่อทำให้การฟันสบถูกต้อง บดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสบฟัน คือส่วนที่ยากของการจัดฟัน ฟันที่เรียงสวยเร็ว ฟันที่ยุบเข้าเร็ว อาจไม่ใช่อย่างที่เราคิด

ดังนั้น การที่ฟันดูเหมือนเรียงสวยแล้ว จึงไม่ได้หมายความว่ามันเสร็จแล้วเสมอไป ต้องไม่ลืมว่า หน้าที่หลักของฟันคือการบดเคี้ยวอาหาร

ถ้ายังไม่ดี ก็ไม่ควรถอด

มีหลายครั้ง ที่เราวางแผนจะพิมพ์ปากทำรีเทนเนอร์ แต่ปรากฎว่าพอถึงวันจริงๆ ฟันกลับเคลื่อน แบบนี้ก็ยังพิมพ์ปากไม่ได้ แม้แต่ทำรีเทนเนอร์ไปแล้ว แต่พอถึงวันถอดจริง ฟันกลับเคลื่อนอีก แบบนี้เราก็ยังไม่ถอด ต้องให้ปรับเครื่องมือตามปกติ หากครั้งหน้าทุกอย่างเรียบร้อย จึงจะถอดได้ แบบนี้ก็มี

ข้อยกเว้น

แต่ก็มีข้อยกเว้น เช่น ผู้ป่วยต้องการหยุดการรักษาเอง หรือมีความจำเป็นบางอย่าง เช่น เหลืออีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว แต่ผู้ป่วยต้องย้ายที่อยู่ ย้ายที่เรียน หรือมีเหตุ จนไม่สามารถกลับมารักษาต่อได้ อันนี้เราจะพิจารณาตามความเหมาะสม

หมอจะเลี้ยงไข้เราหรือเปล่า

คงไม่มีหมอคนไหน อยากจะทำผิดจรรยาบรรณ หรืออยากทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง โดยเฉพาะในยุคข้อมูลข่าวสาร ยุคโซเชียลมีเดียเช่นปัจจุบันนี้

หากค่ารักษาเป็นแบบเหมาจ่าย ระบุขอบเขตราคาชัดเจน ไม่ใช่แบบจ่ายกันไปเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่ว่าจะจัดฟันเสร็จเร็วหรือช้า ยังไงผู้ป่วยก็จ่ายค่ารักษาเท่าเดิม ตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก ยกเว้นจะมีการเปลี่ยนแผนการรักษาภายหลัง ซึ่งอันนี้ผู้ป่วยจะต้องรับทราบและยินยอมก่อน

เรามีผู้ป่วยจัดฟันบางคน ที่ชำระค่ารักษาครบแล้ว แต่เคสยังไม่เสร็จ ผู้ป่วยก็มาพบหมอจัดฟันตามปกติ โดยที่ไม่มีค่าปรับเครื่องมือรายเดือน เป็นเวลาหลายปีจนเสร็จและได้ถอดเครื่องมือ แบบนี้ก็มี